Menu

เป็นโควิด อยู่ในห้องแอร์ เสี่ยงแพร่เชื้อให้คนอื่นไหม 

Peter Torres 2 years ago 25

แม้ว่าเชื้อโควิด-19 จะอยู่กับเรามานาน จนตอนนี้ก็เริ่มมีมาตรการผ่อนปรน แต่ก็ไม่ควรหย่อนความระวังต่อการแพร่เชื้อ เพราะโรคโควิดยังไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน มันพร้อมจะกระพือปีกกลับมาโหมกระหน่ำได้ทุกเมื่อที่เราทุกคนประมาท หลายคนที่ติดโควิด-19 แล้วแทบจะไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยมาก เพียงแค่พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านก็ได้ สำหรับคนที่อยู่บ้านเพียงลำพัง หรืออยู่บ้านที่มีบริเวณมากพอ สามารถแยกตัวเองออกมาได้ แต่สำหรับคนที่ต้องอยู่ร่วมกับสมาชิกในบ้านหลายคน และไม่มีที่จะให้แยกออกห่างไปไหนนี่สิ ต้องทำอย่างไร? 

เมื่อจำเป็นต้องอยู่บ้านร่วมกัน ข้อปฏิบัติและข้อจำกัดต่าง ๆ อาจจะพอรู้บ้างแล้ว แต่อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนอยู่ในเตาอบสำหรับประเทศไทยแล้ว จะเป็นไปได้ไหม ที่จะเปิดแอร์ในบ้าน แม้จะมีคนติดโควิดอาศัยร่วมกัน คิดว่าหลายคนน่าจะสงสัย หรือมีคำถามนี้อยู่บ้าง ถ้าอย่างนั้น เราไปไขข้อสงสัยพร้อมกันเลย 

แม้ว่ากระทรวงสาธารณะสุขจะแนะนำให้เลี่ยงการเปิดแอร์ หากมีผู้ป่วยโควิดอาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า ห้องที่เปิดแอร์ย่อมต้องเป็นห้องที่เป็นระบบปิด ทำให้อากาศไม่ไหลเวียน จึงมีโอากาสติดเชื้อได้ หากในห้องมีผู้ป่วยโควิด หรือผู้ที่เพิ่งหายจากโควิดและยังสามารถแพร่เชื้อได้ หรือการที่เปิดพัดลม ก็ยังต้องดูทิศทางลม หากผู้ป่วยโควิดอยู่เหนือลม ลมก็อาจพัดพาเอาเชื้อจากผู้ป่วย ไปยังคนที่ไม่ป่วยและติดเชื้อได้เช่นกัน แล้วสรุปเปิดแอร์ได้ไหม ? 

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเปิดแอร์ไม่ได้เสียเลย เพียงแต่อาจจะต้องเพิ่มมาตรการ และความระมัดระวังให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และไม่ให้คนที่เรารัก หรือคนอื่นต้องพลอยติดเชื้อ เป็นผู้ป่วยโควิดไปด้วย เนื่องจากมีงานวิจัยออกมายีนยันแล้วว่า เชื้อโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน อาจสามารถอยู่พื้นผิวสเตนเลส พลาสติก แก้ว ได้หลายวัน รวมถึงในอากาศได้นานกว่าปกติ ยิ่งสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ดังนั้น เมื่อต้องการจะเปิดแอร์ หรือจำเป็นต้องเปิดแอร์ ผู้ป่วยก็สามารถทำได้ ดังนี้ 

  • เปิดแอร์ครั้งละไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง 
  • เปิดประตู – หน้าต่างอย่างน้อย 30 นาที เพื่อระบายให้อากาศออก หลังจากปิดแอร์ 

ส่วนกรณีคนที่ยังไม่ติดเชื้อ แต่พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับคนติดเชื้อ และเมื่อต้องการจะเปิดแอร์ หรือต้องการจะเปิดพัดลม และเพื่อความปลอดภัย ควรปฏิบัติดังนี้

  • เปิดหน้าต่างให้แสงแดดตอนเช้าส่องเข้ามาภายในบ้าน เพื่อให้ช่วยฆ่าเชื้อโรคภายในบ้าน
  • เปิดประตู – หน้าต่าง ทุกวัน เพื่อระบายอากาศในห้อง ให้มีการระบายออก 
  • งดการใช้พัดลมเพดานทุกชนิด โดยเฉพาะบ้านหรือห้องที่ปิดทึบ ไม่มีทางระบายอากาศ  เพราะเชื้อโรคจะถูกพัดลมเพดาน พัดฟุ้งกระจาย และครอบคลุมไปทั่วบ้าน 
  • ไม่เปิดพัดลมจ่อหน้า เพราะอาจหายใจเอาเชื้อโควิด-19 ที่กระจาย แฝงตัวอยู่ในอากาศ เข้าสุ่ร่างกายได้
  • เปิดพัดลม โดยหันหน้าพัดลมออกไปด้านนอกประตู หรือนอกหน้าต่าง เพื่อเอาอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน เข้ามาดันอากาศภายในออกสู่นอกบ้านอย่างรวดเร็ว 
  • บ้านที่มีและใช้แอร์ ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศด้วย
  • ไม่นอนในห้องแอร์ร่วมกับผู้ป่วย หรือผู้ติดเชื้อโควิด แม้จะนอนห่างกัน ตามระยะมาตรฐานของการเว้นระยะห่างก็ตาม เพราะการอยู่ในห้องปิดร่วมกันเป็นเวลานาน ระบบของเครื่องปรับอากาศ ที่่ทำให้อากาศในห้องปิด คงหมุนเวียน ไม่มีการระบายออก ทำให้เชื้อกระจายเข้าสู่คนไม่ป่วยได้ 

ด้วยโรคโควิด-19 เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อได้ง่าย โดยเฉพาะโอมิครอน ที่ติดอยู่ตามพื้นผิวต่างๆ ได้นาน และยังลอยตัวอยู่ในอากาศได้นานขึ้นด้วย ดังนั้น เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้ป่วยโควิด แม้ว่าเราจะติดเชื้อหรือยังไม่ติดเชื้อก็ตาม จะต้องไม่ประมาท และคอยป้องกันตนเองอยู่เสมอ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง และถ้าต้องการจะใช้แอร์หรือพัดลม ควรใช้อย่างระมัดระวัง และทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะได้ไม่เกิดการคลัสเตอร์ และแพร่เชื้อกระจายเป็นวงกว้าง เพราะต่อให้เราเริ่มปรับตัวและชินกับโรคนี้ไปแล้ว และความรุนแรงของอาการจะไม่เท่าในตอนระบาดรอบแรกก็ตาม แต่การไม่ประมาท และยังคงระวังไม่ให้กลับมาระบาดรอบใหม่ จนมีผลกระทบไปมากกว่านี้จะดีกว่า 

– Advertisement –
Written By

– Advertisement –