ใช้งานรถเครนอย่างไรให้ปลอดภัย ลดอันตรายจากอุบัติเหตุ

อุบัตเหตุสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุด้วยกัน การป้องกันเพื่อลดความผิดพลาด และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้ได้มากที่สุด จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก blogactualite มีวิธีใช้งานรถเครนอย่างไรให้ปลอดภัย ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 

1. ตรวจสภาพรถเครนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 

หลายคนมักจะมองข้ามการตรวจสภาพรถเครน ด้วยเหตุผลต่าง ๆ บ้างก็คิดว่าไม่จำเป็น สภาพรถยังดูดี ใช้มาไม่เคยเกิดปัญาหาใด ๆ หัวหน้างานไม่สั่ง ไม่จำเป็นต้องคอยเช็ก ฯลฯ ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะละเลยการเช็กสภาพรถ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมาก เพราะสภาพสิ่งแวดล้อม ลักษณะการใช้งานในแต่ละครั้ง ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพของรถเครนได้ทั้งหมด หากดูแลไม่ดี มีวัสดุเข้าไปอุดตัน รวมไปถึงการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ยิ่งรถเครนที่ใช้งานหนักเป็นประจำ ยิ่งไม่ควรละเลย ควรเช็กหาสิ่งผิดปกติหลังใช้งาน และก่อนใช้งานเพื่อเตรียมความพร้อม ช่วยให้ทำงานราบรื่น ไม่สะดุดจนต้องหยุดงานกลางคัน ลดการเสียเวลา และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 

2. ตรวจสอบส่วนประกอบรถเครนอย่างละเอียด 

รถเครนมีส่วนประกอบที่ค่อนข้างมาก และทุกส่วนล้วนแต่มีความเชื่อมโยงในการใช้งาน หากฟันเฟืองตัวไหนมีปัญหา ย่อมส่งผลถึงตัวอื่นต่อ ๆ กันไป ลากยาวไปถึงประสิทธิภาพการทำงานของรถเครนทั้งคัน  เพราะรถเครนเป็นประเภทรถใช้ยกของหนักหลายตัน หากชิ้นส่วนประกอบมีปัญหาเพียงแค่ตัวเดียว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทันที และสามารถสร้างความเสียหายได้มากมายมหาศาลเลยทีเดียว มาดูกันว่าส่วนประกอบของรถเครนส่วนไหนบ้างที่ควรหมั่นเช็กสภาพอยู่เสมอ 

• สายสลิง คือ ส่วนที่ต้องคอยแบกรับน้ำหนักตลอดเวลา และมักเป็นของที่มีน้ำหนักมากหลายตัน มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย จึงควรคอยเช็กสภาพสายสลิงอยู่เสมอ 
• แกนม้วนสายสลิง มีความเกี่ยวเนื่องกับสายสลิง หากแกนม้วนมีปัญหาก็จะส่งผลต่อการทำงานของสายสลิงด้วยเช่นกัน จึงเป็นอีกส่วนที่ไม่ควรมองข้าม ต้องคอยเช็กเป็นประจำ 
• ตะขอ ต้องเช็กส่วนที่เปิด – ปิด ใช้งานได้ปกติไหม เปิดทิ้งหรือปิดสนิทดีหรือยัง เพราะอาจทำให้ของที่ยกหลุดออก และเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ 
• แขนบูม คือ ส่วนที่รับน้ำหนักจากการยกวัตถุต่าง ๆ ควรคำนวณเรื่องขีดจำกัดน้ำหนักให้ดี ไม่ควรยกน้ำหนักเกินขีดจำกัด เพราะเสี่ยงต่อการหักพังจนเกิดอุบัติเหตุ หรือยกวัสดุที่มีน้ำหนักใกล้เคียงน้ำนหักที่ยกได้บ่อย ๆ เพราะทำให้แขนบูมทำงานหนักสะสม เสื่อมเร็ว และพังชำรุดในที่สุด 
• มอเตอร์ของรถเครน ต้องไม่ลืมที่จะตรวจเช็กสภาพอยู่เสมอ ว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่ เพราะมอเตอร์รถเครน ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการใช้งาน หากมอเตอร์เกิดขัดข้อง ก็ไม่สามารถใช้งานรถเครน หรือเป็นเหตุให้เกิดอันตรายระหว่างทำงานได้
• สวิตซ์ไฟ คือ ส่วนที่คอยควบคุมการทำงานรถเครนทุกส่วน หากสวิตซ์ไฟมีปัญหา ก็ใช้งานรถเครนไม่ได้ สวิตซ์ไฟจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพร้อมใช้งานได้ทุกส่วน 
• ขายันพื้น สำหรับสร้างสเถียรภาพของรถเครน ขณะที่ใช้ยกน้ำหนัก หากชำรุดหรือใกล้หักพัง อาจทำให้เกิดอันตรายในขณะใช้งานรถเครนได้

3. ตรวจสอบสภาพพื้นที่จะต้องใช้งานรถเครน 

ตรวจสอบหน้างานเพื่อเช็กสภาพพื้นที่ก่อนเสมอ เพื่อจะได้เลือกประเภทรถเครนได้เหมาะสม เช่น ผิวดินทางจราจรเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือเป็นที่ลาดชัด ควรใช้รถเครนประเภทอะไร เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 

4. เข้าใจขอบเขตและขีดจำกัดของรถเครน 

อุบัติเหตุกับรถเครนเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่บ่อยครั้งที่มักเกิดจากการยกน้ำหนักมากเกินขีดจำกัด จนทำให้รถเครนพลิกคว่ำ ซึ่งบางกรณีไม่ได้คำนวณน้ำหนักของวัสดุกับความสามารถการยกน้ำหนักของตัวรถ แต่บางกรณีก็ฝืนยกแม้จะรู้ว่าน้ำหนักเกิน เพื่อให้งานจบไว แต่กลับทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และหรือสร้างความเสียหายในด้านอื่น ๆ การเข้าใจความหมายและใช้งานให้ถูกต้อง ภายใต้ความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยอย่างรัดกุมจึงจำเป็นมาก ๆ ของผู้ใช้งานรถเครน 

เนื่องจากยังมีบางคนเข้าใจคลาดเคลื่อน จนทำให้เกิดอันตรายด้วยความไม่รู้หรือไม่ตั้งใจ เช่น รถเครน 50 ตัน แม้ว่าจะสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 50 ตัน นอกจากไม่ควรใช้รถเครนยกน้ำหนักเกิน 50 ตันแล้ว หากมีการยกและเคลื่อนย้ายในบริเวณใกล้ ๆ อาจใช้ยก 50 ตัน ได้ แต่ในกรณีที่ต้องยกและเคลื่อนย้ายไปที่ไกล ๆ ไม่ควรยกวัตถุถึง 50 ตัน เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เหมือนเราถือของหนัก ๆ เดินระยะใกล้ ๆหรือใช้เวลาสั้น ๆ  ยังคงพอไหวอยู่ แต่เมื่อถือไปนาน ๆ หรือถือของหนักแล้วเดินไกลมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งเหนื่อยล้า แขนอ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ จนของในมืออาจหลุดร่วงหล่นลงในที่สุด 

5. คนขับรถเครนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความพร้อม

คนขับรถเครนจะต้องเป็นผู้ชำนาญ มีการฝึกฝนและรู้วิธีการใช้งานรถเครนเป็นอย่างดี เพราะรถเครนขับยากกว่ารถทั่วไป หากไม่มีความเชี่ยวชาญ ไม่มีความรู้ หรือไม่เคยได้รบการอบรมมาก่อน ก็ไม่ควรฝืนไปขับ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย รวมไปถึงคนขับจะต้องมีความพร้อมในการทำงาน ทั้งด้านสภาพร่างกายและจิตใจ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ

เนื่องจากรถเครนจะต้องทำงานเกี่ยวกับการยกหรือขนย้ายวัสดุที่มีน้ำหนักมาก ๆ จึงมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งเรามักจะได้ยินข่าวกันอยู่บ่อย ๆ  ดังนั้น การใช้งานรถเครนให้ถูกวิธี เหมาะสม และไม่ประมาท จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย ทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สินได้